วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พระราชประวัติพระองค์เจ้าระพีพัฒนศักดิ์


เสด็จในกรมฯ มีพระนามเดิมว่า พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๑๔ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาตลับ ณ วันพุธ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปีจอ ฉศก จุลศักราช ๑๒๓๖ ตรงวาระทางสุริยะคติ ๒๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๑๗


เมื่อทรงเจริญพระวัย พอสมควรจะศึกษาอักขรสมัยได้ สมเด็จพระบรมชนกนาถ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ศึกษาอักขรวิธีภาษาไทย ในสำนักพระยาศรีสุนทรโวหาร ( น้อย อาจารยางกูร) ภาษาอังกฤษขั้นต้น ในสำนักครูรามสามิ ต่อมาทรงเข้าศึกษาภาษาไทยชั้นมัธยม ในสำนักพระยาโอวาทวรกิจ (แก่น โอวาทะสาร) และในโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ โดยมีเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) เป็นพระอาจารย์ในความดูแลของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ

ในช่วงเวลานั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตั้งพระราชหฤทัยไว้ว่า จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชโอรสทุกพระองค์ เสด็จไปทรงศึกษาวิชาความรู้ยังต่างประเทศ เนื่องจากสยามประเทศกำลังประสบปัญหา จากการแผ่อำนาจ แสวงหาอาณานิคมของชาติตะวันตก ชนชาวสยามจำต้องเพิ่มพูนวิชาความรู้ เพื่อพัฒนาบ้านเมืองให้ทัดเทียมอารยประเทศ ดังนั้นในวันที่ ๑๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๒๗ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ พร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธออีก ๓ พระองค์ คือ พระองค์เจ้ากิติยาวรลักษณ์ , พระองค์เจ้าประวิตรวัฒโนดม และพระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช เสด็จไปทรงศึกษาต่อยังประเทศในทวีปยุโรป โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จในกรมฯ ทรงศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ
เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมแล้ว ทรงเลือกที่จะศึกษาวิชากฎหมาย และได้ทรงพระปรีชาสอบผ่านการเรียน ณ สำนักไคร์สเชิช แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Christchurch College Oxford) แต่ทางมหาวิทยาลัยไม่ยอมรับเข้าศึกษา เพราะพระชนมายุยังไม่ถึง ๑๘ พรรษา ตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย พระองค์จึงต้องเสด็จไปขอความกรุณาเป็นพิเศษว่า " คนไทยเกิดง่ายตายเร็ว " มหาวิทยาลัยจึงยอมผ่อนผันให้สอบใหม่ ก็ยังทรงสอบได้อีกครั้งหนึ่ง พระปรีชาสามารถเป็นที่ประจักษ์ พระองค์จึงทรงศึกษาวิชากฎหมาย ณ สำนักไคร์สเชิช แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และสามารถสอบไล่ได้ ตามหลักสูตรปริญญา B.A. (xon) เกียรตินิยมได้ภายในเวลาเพียง ๓ ปี ขณะพระชนมายุเพียง ๒๐ พรรษา แต่เดิมนั้นทรงตั้งพระทัยว่า จะเสด็จมาทรงเรียนเนติบัณฑิตที่กรุงลอนดอน จากนั้นจึงจะเสด็จไปทรงศึกษาต่อ ที่ประเทศเยอรมนี แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จกลับประเทศสยามเสียก่อน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น